Meso Fat

ฉีดสลายไขมันรูปร่าง พุง ต้นขา ต้นแขน

สาเหตุหลักของการเกิดไขมันส่วนเกิน
มาจากการรับประทานอาหารที่เกินพอดี โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลลอรี่สูงๆ เช่น กลุ่มแป้ง น้ำตาล ไขมัน ฯลฯ โดยไม่ได้สัดส่วนกับการเผาผลาญไขมัน เช่น จากการออกกำลังกาย โยคะ แอโรบิค ฯลฯ และเมื่อระยะเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไขมันส่วนเกิน ก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ไขมัน ก็จะอ้วนพองใหญ่และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รูปร่างขยายออก หรือใหญ่ขึ้นเฉพาะบางส่วนได้ วงการแพทย์ด้านความงาม ก็เลยมีหน้าที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวของคนไข้

Mesofat คือ วิธีการกำจัดไขมันส่วนเกิน วิธีหนึ่ง ด้วยการที่แพทย์จะใช้เข็มฉีดยา ฉีดวิตามินเข้าสู่ชั้นไขมัน เพื่อประโยชน์ในการลดกระชับ การฉีดสารหลัก ๆ คือ Phosphatidylcholine (สกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดง) และวิตามินหลายชนิด โดยใช้กลุ่มยาหลายๆ ตัว เช่น Phosphatidylcholine,Deoxycholate,L-carnitine, Vitamin B complex ,Amino acids,Minerals ฯลฯ มีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมในชั้นไขมัน และทำให้เกิดการขัดขวางการสะสมของไขมัน ยังช่วยการกระตุ้นให้ไขมันสะสมถูกปล่อยออกมา เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และระบบต่อมน้ำเหลือง จึงทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบแข็งแรงขึ้น กระชับขึ้น โดยปริมาณที่ฉีด ก็แล้วแต่บริเวณที่ต้องการ เช่น อาจจะใช้ 0.2-0.5 ซีซี ห่างกัน ทุก 1-2 ตร.ซม โดยฉีดลึกเข้าไปในชั้นไขมัน ตั้งแต่ 0.1 มม-12 มม. โดยเทคนิค เมโสเธอราพี (Mesotherapy)

ผลข้างเคียงของการฉีดเมโสแฟต

ระหว่างที่ทำการรักษาอาจเจ็บและบวมช้ำ แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไป หากทีรอยช้ำก็จะค่อยๆจางลงในเวลาประมาณ 7-14 วัน ก็จะกลับมาเป็นปกติ และบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตจะเริ่มเข้าที่ กระชับขึ้น

ตำแหน่งที่นิยมทำการสลายไขมันด้วยวิธี Mesofat

  • ลดไขมันที่แก้ม เพื่อปรับหน้าให้เรียว ควบคู่กับการฉีดโบทอกซ์หน้าเรียว

  • ลดไขมันส่วนเกินที่คาง เหนียง

  • ลดไขมันส่วนเกินที่ต้นแขน ต้นขา สะโพก พุง หน้าท้อง

  • ลดไขมันที่น่อง (โดยการเสริมการฉีดลดน่องด้วยฉีดโบ )

  • ลดไขมันที่จมูก(บาน) ทำให้เล็กลง

  • ลดไขมันที่หนังตาบนหย่อนคล้อย

ขั้นตอนการฉีด Meso Fat

แพทย์จะทำการผสมยาและฉีดในบริเวณที่ต้องการจะสลายไขมัน ส่วนปริมาณและความลึกที้ฉีดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนอาจมีชั้นไขมันและผิวหนากว่า และฉีดซ้ำทุกๆ 5 – 7 วัน หลังจากฉีดแล้วไขมันจะเริ่มหดตัวลดลง 15-20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และไขมันจะสลายตัว 50% ขึ้นไปเมื่อทำครบคอร์สแล้ว

การทำ Meso Fat ต้องพบแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและความสวยเป๊ะ หมอประเมินว่าไม่สามารถฉีดได้ สามารถปรึกษาคุณหมอได้ว่ามีทางไหนได้อีกให้ใบหน้าและ สัดส่วน เรียว เพรียว กระชับ ได้

ข้อห้ามในการทำ Mesofat มีดังนี้

  1. ทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป
  2. สตรีมีครรภ์
  3. คนไข้โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
  4. คนไข้ที่มีประวัติโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เช่น เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
  5. คนไข้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง
  6. คนไข้ที่มีประวัติโรคหัวใจ และทำการรักษาด้วยยาหลายขนาน

    ข้อควรปฏิบัติหลังทำ Mesofat มีดังนี้

    ช่วงที่เว้นการฉีด Mesofat แนะนำให้ทำ RF เพื่อช่วยรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น และทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้มากขึ้น ลดการหย่อนคล้อยหลังฉีด

อาจจะพบอาการบวมช้ำ หรืออาการเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย ขณะที่ทำและหลังทำ 1-3 วัน ดังนั้น ควรเลี่ยงการ การเข้าอบซาวน่า การนวด การดื่มอัลกอฮอล์ หรือการทำทรีทเม้นต์ใดๆ หลังทำประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อลดการฟกช้ำให้น้อยลง

ควรออกกำลังกายเบาๆ หลังทำ เช่น การเดินเร็ว โยคะ หรือแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ และรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมันใหม่

เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก และไขมันส่วนเกิน มิให้กลับมาสะสมได้อีก เพราะการสลายไขมันด้วยการทำ Mesofat จะไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมนิสัยการรับประทานอาหาร และมีวินัยในการควบคุมน้ำหนัก ให้มากขึ้น

พบว่าในคนไข้บางคน หลังจากฉีดลดไขมันเฉพาะที่แล้ว โดยเฉพาะที่คาง พุง หรือท้องแขน เมื่อไขมันลดได้เกือบหมดแล้ว แต่ผิวหนังยังมีการหย่อนคล้อย การทำ RF หรือออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร จะช่วยให้การหย่อนคล้อยกระชับขึ้นได้เร็วขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *